ประวัติดนตรีแจ๊ส เป็นมายังไงกันนะ ? (History of Jazz Music)

อยากรู้ไหมว่าประวัติความเป็นมาของดนตรีแจ๊สที่เราเคยฟังกันเป็นอย่างไร มาอ่านกันเถอะ!

ประวัติดนตรีแจ๊ส ดนตรีแจ๊สเป็นแนวเพลงที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 มีรากฐานมาจากชุมชนชาวแอฟริกันอเมริกัน โดยเฉพาะในนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ซึ่งเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมและรูปแบบดนตรีในเวลานั้น ดนตรีแจ๊สได้รับอิทธิพลมาจากประเพณีทางดนตรีที่หลากหลาย รวมถึงจังหวะของแอฟริกา ฮาร์โมนีของยุโรป และดนตรีป๊อปของอเมริกา

ในช่วงเริ่มต้นของดนตรีแจ๊สมีลักษณะเป็นการด้นสด (Improvisation) และการทดลอง (Experimmentation) โดยนักดนตรีจะบรรเลงทำนองที่หลากหลายทดลองกับจังหวะที่แตกต่างกัน บุคคลที่มีอิทธิพลในการเริ่มต้นของดนตรีแจ๊สได้แก่ Buddy Bolden, King Oliver และ Jelly Roll Morton ซึ่งช่วยสร้างรูปแบบและโครงสร้างพื้นฐานของดนตรีแจ๊ส

ดนตรีแจ๊สแพร่กระจายไปทั่วสหรัฐอเมริกาอย่างรวดเร็ว ในปี ค.ศ. 1920 ดนตรีแจ๊สได้เริ่มเป็นที่รู้จักในหลากหลายประเทศ เป็นช่วงที่ขนานนามว่าเป็น “Jazz Age” และเป็นช่วงเวลาแห่งนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยมในแนวเพลงแจ๊ส นักดนตรีอย่าง Louis Armstrong, Duke Ellington และ Bessie Smith ถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลอย่างมากในยุคนี้ ดนตรีแจ๊สกลายเป็นที่รู้จักและพบได้ในไนต์คลับ ห้องเต้นรำ และงานสังสรรค์อื่น ๆ

ต่อมาในปี ค.ศ. 1930 และ 1940 ดนตรีแจ๊สมีการพัฒนาและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้เรียกว่า “Swing Era” และโดดเด่นด้วยการใช้วงดนตรีแจ๊สวงใหญ่และบรรเลงจังหวะสวิง นักดนตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคนี้ ได้แก่ Count Basie, Benny Goodman และ Glenn Miller แจ๊สยังได้รับอิทธิพลอย่างมากจากแนวเพลงอื่นๆ ในช่วงเวลานี้ เช่น เพลงบลูส์ กอสเปล และละติน

ในช่วงปี ค.ศ. 1950 และ 1960 ดนตรีแจ๊สได้รับการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ยุคนี้เป็นที่รู้จักในชื่อยุค “Cool Jazz” และ “Bebop” และโดดเด่นด้วยวงที่เล็กกว่าและเน้นที่การแสดงด้นสดมากกว่า “Bebop” นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยฮาร์โมนีที่ซับซ้อนและการแสดงด้นสด นักดนตรีอย่าง Miles Davis, John Coltrane และ Charlie Parker จัดเป็นนักดนตรีที่มีส่วนร่วมพัฒนาในดนตรีแจ๊สแนวใหม่นี้

ตลอดช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 ดนตรีแจ๊สยังคงพัฒนาและผสมผสานอิทธิพลใหม่ ๆ เช่น ดนตรีแจ๊สฟิวชันเกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1960 และ 1970 โดยผสมผสานดนตรีแจ๊สเข้ากับร็อก ฟังก์ และแนวเพลงอื่นๆ นักดนตรีอย่าง Herbie Hancock และ Chick Corea มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงนี้

ช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ดนตรีแจ๊สยังคงพัฒนาและมีความหลากหลาย โดยมีแนวเพลงย่อยใหม่ ๆ เกิดขึ้น เช่น ฟิวชั่น แอซิดแจ๊ส และสมูทแจ๊ส เทศกาลและคลับดนตรีแจ๊สจัดขึ้นทั่วโลก และดนตรีแจ๊สยังคงเป็นส่วนสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมของหลายประเทศ

ในปัจจุบันดนตรีแจ๊สยังคงเป็นแนวเพลงที่สำคัญและเฟื่องฟู เนื่องจากมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและหลากหลาย จากต้นกำเนิดในนิวออร์ลีนส์ไปจนถึงอิทธิพลของดนตรีร่วมสมัย ดนตรีแจ๊สมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อวัฒนธรรมอเมริกันและยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีและผู้ฟังทั่วโลก

สรุปโดยรวมดนตรีแจ๊สเป็นรูปแบบศิลปะที่มีความเข้มข้นและหลากหลาย สะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ของนักดนตรี นักดนตรีแจ๊สมีส่วนสำคัญในการผลักดันขอบเขตของดนตรีและสำรวจเสียง จังหวะ และเสียงประสานใหม่ ๆ รวมทั้งบทเพลงแจ๊สยังมีอิทธิพลต่อดนตรีแนวอื่น ๆ มากมายในปัจจุบัน

Share the Post:

Related Posts

science of practice

วิธีปลดล็อคสมองแบบ 100% ช่วยให้เล่นดนตรีได้เก่งขึ้นแม้ใช้เวลาซ้อมเท่าเดิม

วิทยาศาสตร์กับการฝึกซ้อม ทำไมการซ้อมดนตรีวันละ 10 นาที ถึงช่วยให้เล่นได้เก่งกว่าการฝึก 60 นาทีในวันเดียว