เพราะดนตรีให้มากกว่าคำว่า "บันเทิง"

ไหนจะค่าครู ค่าเครื่องดนตรี ลงทุนให้ลูกเรียนดนตรีคุ้มค่าจริงหรอ?

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมพ่อแม่อย่างเราถึงยอมทุ่มทุนส่งลูกเรียนกีตาร์ แลกกับค่าครู ค่าเครื่องดนตรี เสียเงินไม่ใช่น้อยเลยนะ อันที่จริง การเรียนดนตรีไม่ได้เป็นแค่การฝึกเล่นเครื่องดนตรีเท่านั้น แต่มันคือการลงทุนใน “บทเพลงแห่งชีวิต” มอบผลพลอยได้มากมายที่ติดตัวลูกน้อยไปตลอดเส้นทาง

สิ่งที่เราจ่ายไปนั้น ไม่ใช่แค่ “คอร์สกีตาร์” แต่เราจ่าย​
  • เพื่อความมุ่งมั่นและวินัย: ใครเคยเรียนดนตรีบ้าง จะรู้ดีว่ากว่าจะเล่นเพลงจบได้นั้นไม่ง่าย ต้องฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำอีก การอดทนไม่ยอมแพ้ต่อความเหนื่อยล้า สอนให้ลูกมีวินัย รู้จักแบ่งเวลา และมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมาย
 
  • เพื่อสมองที่เฉียบคม: ดนตรีกระตุ้นการทำงานประสานกันของหลายส่วนในสมอง ส่งผลให้พัฒนาการด้านความจำ การฟัง การประสานมือตา และการแก้ปัญหาได้อย่างยอดเยี่ยม เหมือนลูกกำลังออกกำลังกายให้สมองแข็งแรงไปพร้อมกัน
 
  • เพื่อจิตใจที่เข้มแข็ง: การผิดพลาดในการเล่น ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นบทเรียน ดนตรีสอนให้ลูกเผชิญกับความผิดหวัง รู้จักปลอบใจตัวเอง ยอมรับข้อผิดพลาด และลุกขึ้นฝึกฝนต่อ ทำให้จิตใจเข้มแข็งและยืดหยุ่น
 
  • เพื่อความสร้างสรรค์: ดนตรีเปิดโลกแห่งจินตนาการ ขัดเกลาความรู้สึก สอนให้ลูกถ่ายทอดอารมณ์ผ่านเสียงเพลง พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และมุมมองที่งดงามต่อโลกใบนี้
 
  • เพื่อมิตรภาพและทีมเวิร์ค: บนเส้นทางดนตรีไม่ได้โดดเดี่ยว มีเพื่อนร่วมวง มีครู มีผู้ชม การเล่นดนตรีร่วมกัน สอนให้ลูกเข้ากับผู้อื่น รู้จักการประสานงาน เคารพกติกา เป็นส่วนหนึ่งของทีม และสร้างมิตรภาพที่ยั่งยืน
 
  • เพื่อความภาคภูมิใจในตัวเอง: เสียงปรบมือ เสียงชมเชย จากความพยายามของลูกเอง สร้างความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเอง ชีวิตนี้ไม่ใช่แค่แข่งขัน แต่แข่งกับตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ดนตรีส่งมอบให้
 
และที่สำคัญ การเรียนดนตรี ยังมอบโอกาสให้ลูก 

  • ได้สร้างสรรค์สิ่งสวยงาม: แทนที่จะจมอยู่กับหน้าจอ ดนตรีเปิดพื้นที่ให้ลูกสร้างสรรค์เสียงเพลง บรรเลงผลงานชิ้นเอก สร้างความสุขทั้งให้ตัวเองและผู้อื่น
 
  • ได้เรียนรู้ความอุตสาหะ: ชัยชนะบนเส้นทางดนตรี ไม่ใช่พรสวรรค์ล้วนๆ แต่คือผลจากการหมั่นฝึกฝน ดนตรีสอนให้ลูกรู้จักความพยายาม อดทน และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค
 
  • ได้ค้นพบตัวตน: ดนตรีเป็นอีกภาษาหนึ่งสื่อสารความรู้สึก ภายในเสียงเพลงนั้น ซ่อนตัวตนและความฝันของลูกน้อย เราเองก็ได้เรียนรู้จักลูก ผ่านบทเพลงที่เขาบรรเลง
 

บทสรุป

ใช่แล้วครับ เราไม่ได้จ่ายค่าเรียนกีตาร์ แต่เราจ่าย “ค่าโอกาส” ให้ลูกได้เรียนรู้บทเพลงแห่งชีวิต บทเพลงที่บรรเลงด้วยวินัย มุ่งมั่น สร้างสรรค์ และความมีน้ำใจ ทำให้ลูกไม่เพียงเล่นดนตรีได้เท่านั้น แต่เล่นกับชีวิตได้อย่างงดงามและประสบความสำเร็จ นั่นคือผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด

และเมื่อถึงวันที่ลูกเล่นเพลงเพราะพริ้ง แสงแห่งความภาคภูมิใจของเขา ไม่ใช่แค่ความสำเร็จในการเล่นเครื่องดนตรี แต่เป็นความภูมิใจในตัวตนที่พัฒนาขึ้น

นี่แหละคือบทเพลงแห่งชีวิต ที่ดนตรีมอบให้… บทเพลงที่ไพเราะเกินกว่าโน้ตใด ๆ บทเพลงที่เราทั้งพ่อแม่และลูกจะร่วมร้องประสานเสียงไปตลอดเส้นทาง